Header Ads

"สทท. มั่นใจปีนี้ภาคการท่องเที่ยวบูม ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 30 ล้านคนปั้นรายได้ท่องเที่ยวเกิน 3 ล้านล้านบาท เร่งประสานภาครัฐ เอกชน ฟื้นฟู supplyside"

"สทท. มั่นใจปีนี้ภาคการท่องเที่ยวบูม ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 30 ล้านคนปั้นรายได้ท่องเที่ยวเกิน 3 ล้านล้านบาท เร่งประสานภาครัฐ เอกชน ฟื้นฟู supplyside"

          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4/2565 อยู่ที่ระดับ 72 สะท้อนสถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา​ และมีการพื้นตัวอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า​ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยผู้ประกอบการคาคว่าในใตรมาสหน้าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าไตรมาสนี้ ระดับสถานการณ์ท่องเที่ยว 1/2566 อยู่ที่ระดับ 77 ในปี 2566

          นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ภาคการท่องเที่ยวบูม มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน และภาคการท่องเที่ยวกลับมาเป็นเครื่องจักรสำคัญในการพื้นเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง ความท้าทาย คือ การเร่งฟื้นฟู Supplyside สร้างความเข้มแข็งให้ผู้ปะกอบการ กลับมามีความสามารถในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังบอบช้ำ ขาดสภาพคล่อง ขาดความรู้ ขาดเทคนิคการตลาดสมัยใหม่ และที่สำคัญที่สุดคือ การขาดแคลนบุคลากร

          ดังนั้น​ ยุทธศาสตร์ 4 เติม ของ สทท. คือ การเติมทุน เติมลูกค้า เติมความรู้ และเติมนวัตกรรม เป็นสิ่งสำคัญที่เดินหน้าขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ด้าน Demand สทท. เชื่อมั่นว่าจะมีการเติบโต จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 30 ล้านคน สร้างรายได้จากกว่าท่องเที่ยวทั้งปีสูงกว่า 3 ล้านล้าน ที่เคยทำได้ในปี พ.ศ 2562 แต่หาก Supplyside ไม่พร้อมเราก็จะสูญเสียโอกาสไป

          ภารกิจแรกที่คณะกรรมการ สทท. ชุดใหม่ เดินหน้าทันที คือ การเร่งประสานงานกับภาครัฐ ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพราะการฟื้นฟูการท่องเที่ยวนั้นจะต้องเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกกระทรวง หน่วยงานวางแผนและแก้ปัญหาร่วมกัน ข่าวดีก็คือ ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปิดโอกาสให้คณะกรรมการ สทท. เข้าพบเพื่อรับฟังปัญหาและโซลูชั่น ซึ่งหลายปัญหาก็ได้รับการแก้ไขอย่างทันทีและรัฐมนตรีอีกหลายท่านก็ได้ติดต่อมาที่ สทท. เพื่อเร่งออกแบบและขับเคลื่อนนโยบายร่วมกันต่อไป

          นายศิษฏิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และกรรมการ สทท. กล่าวว่า โดยภาพรวมตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคนถือว่า เป็นเป้าหมายที่ดีและเป็นไปใด้ เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ในส่วนของตลาดจีน ไทยนับเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวจีน สะท้อนได้จากที่ทางการจีนได้อนุญาตให้บริษัททัวร์ ดำเนินการมายังประเทศไทยได้เป็นกลุ่มแรก จากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ ยาวนาน ได้สร้างความบอบช้ำให้กับเศรษฐกิจจีนอย่างมาก การประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะต้องดูกันเป็นระยะ ทีละไตรมาส ขึ้นกับจำนวนไฟลท์ที่กำลังทะยอยเพิ่มขึ้นด้วย และคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปี

          นายกิตติ พรศิวะกิจ ประธาน SMART Tourism สทท. กล่าวว่า สทท. ได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมทั้งจากหน่วยงานภาคการท่องเที่ยว เช่น ททท. อพท. สสปน. กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เน้นการเติมลูกค้าและพัฒนาสินค้าให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และยังมีหน่วยงานพันธมิตรอื่น ๆ ที่มาช่วยเติมทุน เติมนวัตกรรม และแก้ไขปัญหาการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน เช่น สสว. ที่ดูแลเรื่อง SME ได้สนับสนุน 2 โครงการ คือ SME Restart เพื่อ Transform ผู้ประกอบการให้มีความพร้อมต่อ นวัตกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปเช่น BCG/Wellness และ Metavers Tourism​ โครงการ BDS ที่ให้ทุนผู้ประกอบการเพื่อยกระดับมาตรฐาน เพิ่มช่องทางและโอกาสทางการตลาด / ธกส. และ DEPA

         ในปีนี้ก็จะมีการสานต่อโครงการเชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยวกับการท่องเที่ยวชุมชนและการประยุกต์ใช้นวัตกรรมดิจิทัล อีก 9 ภาคทั่วประเทศ / ธนาคารออมสิน ได้ปรับเกณฑ์การปล่อยกู้ Soft Loan ภายใต้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท สำหรับภาคการท่องเที่ยวให้มีความยึดหยุ่นมากขึ้น / เครดิตบูโร ก็ให้มีการปลดล็อคสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ผู้ที่มีประวัติการชำระดีถึง​สิ้นปี​ พ.ศ.2562 ให้ถือว่าอยู่ในสถานะที่สามารถขอสินเชื่อได้ / สสว. ได้อนุมัติงบประมาณ สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันในวงเงินกู้ 3,500 ล้านบาท ผ่าน บสย. เป็นต้น

          นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. กล่าวเสริมว่า เรื่องการขาดแคลนแรงงาน สทท. ได้จับมือกับ 3 หน่วย คือ กระทรวงแรงงาน / กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ / และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เร่งปั้นคนแบบ Short Course เป็นโรงเรียน เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถเติมคนเข้าสู่ระบบได้ทันที และสุดท้ายนี้ สทท. ต้องขอบพระคุณ นายกรัฐมนตรี ที่เติมงบกระตุ้นการท่องเที่ยว 3,900 ล้านบาท ที่มาถูกที่ถูกเวลา ซึ่งจากการได้รับการสนับสนุน สทท. มั่นใจได้ว่าปีนี้ภาคการท่องเที่ยวพร้อมที่จะกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติได้อย่างแน่นอน

#​ข่าวสภา​อุตสาหกรรม​ท่องเที่ยว​แห่ง​ประเทศไทย​

#​สมาคม​สื่อมวลชน​เพื่อ​การ​ท่องเที่ยว

#​kaomaadoo.net

CHATCHAI​ DAENGKASEM

0830760579​

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.