กกท. จับมือ สมาคมกีฬาเจ็ตสกี ลงนาม MOU ส่งเสริม สนับสนุนกีฬาเจ็ตสกีอาชีพไทย ภายใต้โครงการ "กีฬาอาชีพ ติดธงชาติไทย"
กกท. จับมือ สมาคมกีฬาเจ็ตสกี ลงนาม MOU ส่งเสริม สนับสนุนกีฬาเจ็ตสกีอาชีพไทย ภายใต้โครงการ "กีฬาอาชีพ ติดธงชาติไทย"
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 14.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงาน
แถลงข่าวและพิธีลงนาม MOU การทำความตกลงการให้การช่วยเหลือ การส่งเสริมหรือการสนับสนุนกีฬาเจ็ตสกีอาชีพของไทย ภายใต้ชื่อโครงการ "กีฬาอาชีพ ติดธงชาติไทย" โดยมี นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายสนิท วรปัญญา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ร่วมในงานแถลงข่าว ณ ห้องประชุม ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย“กีฬาอาชีพ ติดธงชาติไทย” เป็นหนึ่งในโมเดลการพัฒนากีฬารูปแบบใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทย และกีฬาเจ็ตสกีอาชีพ โดยพัฒนาจากทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีไทย ที่แข็งแกร่งในการเป็น “ผู้นำโลก” ในปัจจุบัน ให้เพิ่มการสร้างประโยชน์แก่ชาติใน 4 ด้าน คือ กีฬาไทยแข็งแกร่งในเวทีโลก, มีสื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในระดับนานาชาติ นำเข้าและสร้างเม็ดเงินรายได้ทางเศรษฐกิจจากกีฬา ที่มีเป้าหมายรวมกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี และสนับสนุนการท่องเที่ยว ด้าน “ดร.ก้องศักด” ชี้กีฬาไทยจำเป็นต้องขยายศักยภาพออกไปสู้ในเวทีโลกด้วย
จากการที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท เอเชี่ยนมัลติสปอร์ต แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีเวิลด์คัพและเวิลด์ซีรี่ส์ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีนั้น
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า “ครั้งนี้เป็นรูปแบบของการพัฒนางานกีฬาไทยรูปแบบใหม่อีกด้านหนึ่ง เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไรว่า กีฬาไทยนั้น จำเป็นที่จะต้องพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญาด้วยเช่นกัน เจ็ตสกีอาชีพนั้น สามารถพัฒนาไลเซนส์ไทย หรือลิขสิทธิ์กีฬาที่สร้างโดยคนไทย ขึ้นไปเป็นผู้นำของโลก นับเป็นสิ่งที่น่ายินดีและน่าตื่นเต้นมาก เพราะที่ผ่านมาเราจะเคยชินได้ยินแต่กีฬาจากต่างประเทศประชาสัมพันธ์เข้ามาใน ประเทศไทย แต่ครั้งนี้เราจะประชาสัมพันธ์กีฬาลิขสิทธิ์ไทย ออกไปทั่วโลกบ้าง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากมาย อีกทั้งสถานีโทรทัศน์กีฬายักษ์ใหญ่ของโลก ยูโรสปอร์ต จะนำไปออกอากาศสู่เครือข่ายการรับชมกว่า 155 ล้านครัว เรือน หรือกว่า 500 ล้านคน ในทุกๆ สนามด้วย"
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ถึงวันนี้วงการกีฬาไทย ได้พัฒนาขึ้นมาในหลายๆ ด้าน โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้ทำงานพัฒนากีฬาเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่จำเป็นที่จะต้องขยายศักยภาพของกีฬาไทยด้านลิขสิทธิ์ออกไปแข่งขันในเวทีโลกด้วย สำหรับกีฬาเจ็ตสกีอาชีพนั้น เราต่อยอดความสำเร็จจากที่กีฬาเจ็ตสกีอาชีพไทยขึ้นเป็นผู้นำโลกสำเร็จแล้ว มีนักกีฬาทั่วโลกติดตามทั้งทัวร์นาเม้นท์เวิลด์ซีรี่ส์และเวิลด์คัพ จึงได้เพิ่มเป้าหมายให้กีฬานั้น ต้องสร้างประโยชน์แก่ชาติ อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย เรียกว่า โมเดลกีฬาอาชีพติดธงชาติไทย โดยพัฒนาประโยชน์ 4 ด้าน คือ การชี้วัดกีฬาไทย และความแข็งแกร่งยั่งยืนในเวทีโลก, มีสื่อส่งออก เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในระดับนานาชาติ ต้องสนับสนุนการท่องเที่ยว และสร้างเม็ดเงินรายได้ทางเศรษฐกิจจากกีฬา เช่นเจ็ตสกีนี้ ตั้งเป้าหมายรวมกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี
การสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจของกีฬาเจ็ตสกีแบ่งเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่ 1.การนำเข้ารายได้และการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจจากทัวร์นาเม้นท์เวิลด์คัพ สร้าง World Hub การแข่งขัน-แสดงสินค้า-จัดประชุมสัมมนา เป้าหมาย 1,000 ล้านบาท, การสร้างตลาดแข่งขันไทย 650 ล้านบาท, การสร้างตลาดกีฬาในประเทศ 2,000 ล้าน บาท และที่ยอดเยี่ยมคือ เริ่มต้นการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาส่งออกราว 200 ล้านบาท รวมเป็นเป้าหมายของ แผนงานกีฬาเจ็ตสกี ที่เราจะร่วมกันผลักดัน มีเป้าหมายประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่
www.kaomaadoo.net
เพจ/เฟสบุ้ค www.facebook.com/Page kaomaadoo
และช่องทางยูทูบ www.youtube.com/kaomaadoo
CHATCHAI 083-076-0579
ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น