Header Ads

TFOPTA จัดประชุมสัญจร บางคล้า ฉะเชิงเทรา นางฉลอม สงล่า ประธานสมาคมสมาพันธ์ฯ ท่านใหม่ พร้อมภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงข่าว การเชื่อมโยงประโยชน์การลงทุน สู่การท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ อีอีซี

TFOPTA จัดประชุมสัญจร บางคล้า ฉะเชิงเทรา

นางฉลอม สงล่า ประธานสมาคมสมาพันธ์ฯ ท่านใหม่ พร้อมภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงข่าว การเชื่อมโยงประโยชน์การลงทุน สู่การท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ อีอีซี


              TFOPTA จัดประชุมสัญจร ร่วมภาคีเครือข่าย เปิดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด สู่เมืองหลัก พร้อมผลักดันยอดการท่องเที่ยวสู่ 3.55 ล้าน โดยมี นางฉลอม สงล่า ประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุม นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาฯ ให้เกียรติรับเชิญ พร้อมด้วยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยว ได้เสนอแนวทางกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวแก่สมาชิกที่เข้าร่วมประชุม ณ ห้องบางปะกง ชั้น 2 โรงแรม ที วินเทจ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา


  

                นางฉลอม สงล่า ประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องประเด็นสำคัญในการกระตุ้นแหล่งท่องเที่ยว 55 เมืองรองของภูมิภาคเป็นสิ่งสำคัญมาก ด้วยตามนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ให้วาระไว้ว่า 55 เมืองรอง เราจะไม่รองอีกแล้ว เราจะร่วมกันผลักดันให้เกิดโอกาสในชุมชนแหล่งท่องเที่ยวของเรา ร่วมกันสร้างเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชนให้ดีขึ้น เมืองหลักที่ดีอยู่แล้วเราก็ยังทำต่อส่วนเมืองรองเรายังต้องการได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อให้เกิดเมืองน่าเที่ยว น่าอยู่ แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนยังมีอีกมาก เช่นท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน ท่องเที่ยวเชิงศาสนา ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เป็นต้น เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากได้เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน


                สำหรับวันนี้เราได้รับเกียรติจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยว ได้มาประชุมให้แนวทางรวมถึงแผนการส่งเสริมการตลาดในรูปแบบใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ในแต่ละภาค แต่ละจังหวัดซึ่งมีของดีในแต่ละท้องถิ่นสามารถนำมาเสนอให้ผู้ประกอบการด้านธุรกิจการท่องเที่ยวได้เป็นแนวทางอย่างกว้างขวางและทันสมัยมากขึ้น และนำข้อมูลของผู้ประกอบการในแต่ละชุมชนเสนอต่อรัฐบาลให้กลับมาส่งเสริมสนับสนุนเราให้เกิดเป็นมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคจากเมืองรองสู่เมืองหลักในโอกาสต่อไป


นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดประชุมสัญจรที่ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทราในครั้งนี้ เราได้พากลุ่ม สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในธุรกิจท่องเที่ยว โดยมีประเด็นสำคัญเพื่อการกระตุ้นเมืองท่องเที่ยว 55 เมือง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตของภูมิภาค เราได้เชิญคณะกรรมการของสมาพันธ์ฯทั่วประเทศไทยได้มารวมตัวกันที่นี่มากกว่า 40 ท่าน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวสู่เมืองน่าเที่ยว ซึ่งได้มาแลกเปลี่ยนกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนการเสนอนโยบายที่สอดคล้องกับแผนส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวที่รัฐบาลได้มอบไว้ โดยเราเชื่อว่าการทำแผนท่องเที่ยวในรูปแบบดิจิทัลต้องมาเพื่อให้ทั่วถึงในทุกชุมชนแห่งเมืองน่าเที่ยว เพื่อนำเป้าหมายไปให้ถึงตัวเลขตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้ 3.55 ล้าน ต้องไปให้ถึง






                ภายในการประชุม ได้มีสมาชิกที่เป็นคณะกรรมการของสมาพันธ์ฯจากทั่วทุกภูมิภาค ต่างเดินทางเข้าร่วมประชุมร่วมรับแผนและนโยบายที่กล่าวในที่ประชุม ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำข้อมูลที่ได้ร่วมนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อส่งเสริมงบประมาณลงสู่ภาคธุรกิจในชุมชนแต่ละภูมิภาคใน 55 จังหวัดเมืองรอง เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้ดำรงอยู่ได้พร้อมพัฒนาสู่เมืองหลักในโอกาสต่อไป


นางฉลอม สงล่า ประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการได้รับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า รู้สึกดีใจมากที่ทั่วประเทศไม่มีการแข่งขัน จึงเกิดเป็นฉันทามติ ในส่วนของตัวเราเองนั้นก็มีความตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุดกับตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย สมกับที่ได้รับการไว้วางใจจากเพื่อนสมาชิก ขอทำเมืองรอง 55 จังหวัด ให้เกิดเป็นเมืองน่าเที่ยว ทั้งนี้เราต้องหลอมรวมทุกภาคส่วนของการท่องเที่ยว ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สมกับชื่อ “ฉลอม” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวให้ก้าวไปด้วยกันและสำเร็จไปด้วยกันค่ะ


นอกจากนี้ การประชุมสัญจรในจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ร่วมงานแถลงข่าวเรื่องการเชื่อมโยงประโยชน์การลงทุน สู่การท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ อีอีซี ภายใต้สาระสำคัญ “อีอีซี รวมพลังจังหวัดฉะเชิงเทรา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน เปิดเส้นทางท่องเที่ยว “ช้อปของดี เที่ยววัดดัง บางคล้า ฉะเชิงเทรา” หนุนเที่ยววันธรรมดา สร้างรายได้ชุมชน โดยมี ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และ นางสาวฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย นายศิริชัย เผ่าบรรจง นายกเทศมนตรีตำบลบางคล้า นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการสายงานพื้นที่และชุมชน สกพอ. รศ.ดร.ดวงพร ภู่ผะกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นางฉลอม สงล่า ประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย ร่วมในพิธี




                การแถลงข่าว ร่วมภาคีเครือข่ายดังกล่าว เพื่อประชาสัมพันธ์การเปิดเส้นทางการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด ““ช้อปของดี เที่ยววัดดัง บางคล้า ฉะเชิงเทรา” เชื่อมโยงประโยชน์จากการลงทุนสู่การท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ อีอีซี ณ วัดแจ้งบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อชูอัตลักษณ์ ความโดดเด่นของสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านสายน้ำบางปะกง โดยบูรณาการร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา และเครือข่ายในพื้นที่ อีอีซี วิสาหกิจชุมชน นำสินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชน มาจำหน่ายในเส้นทางการท่องเที่ยว สร้างโอกาสเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้ชุมชนในพื้นที่โดยรอบ


ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวว่า กิจกรรมฯในครั้งนี้ อีอีซี ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะสำนักงานเทศบาลตำบลบางคล้า และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวอำเภอบางคล้า ฉะเชิงเทรา เชื่อมโยงองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ยกระดับบริการด้านการท่องเที่ยวในชุมชนให้มีคุณภาพตรงความต้องการตลาด และนักท่องเที่ยวยิ่งขึ้น ซึ่งเริ่มนำร่องในพื้นที่บางคล้าแหล่งชุมชนโดยรอบที่มีศักยภาพ รองรับกลุ่มนักลงทุนและผู้ที่จะเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่อีอีซีให้สามารถเที่ยวได้ทั้งวันหยุด และวันธรรมดา พร้อมเลือกซื้อสินค้าและของดีเมืองฉะเชิงเทรา อาทิ ขนมเปี๊ยะ มะม่วง มะพร้าว น้ำตาลสด กุ้งแม่น้ำและข้าวหอมมะลิจากอำเภอราชสาส์น ที่เป็นต้นกำเนิดของข้าวหอมมะลิ 105 เป็นต้น


นอกจากนี้ยังได้นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง เช่น ท้าวเวสสุวรรณสามขาเหยียบหีบสมบัติ แห่งวัดแจ้ง บางคล้า นั่งเรือชมพระอุโบสถเงิน วัดพุทธพรหมยาน หนึ่งเดียวบนเกาะลัด และร่วมสักการะพระพิฆเนศ เนื้อสำริดองค์ยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขึ้นชื่อเรื่องขอพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นที่เคารพและศรัทธาแก่นักท่องเที่ยวสายมูทั้งในและต่างประเทศ ณ อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน ซึ่ง สกพอ. ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผลักดันให้พื้นที่นี้ เป็นอีกหนึ่ง destination ของนักลงทุนที่มาใช้ชีวิตยามว่าง และพักผ่อนจากการทำงาน.


            

            

            

            

            

            

            
            








ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.