Header Ads

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3/2563 และข้อเสนอต่อภาครัฐจากผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวในสถานการณ์ปัจจุบัน”

                                       

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3/2563 และข้อเสนอต่อภาครัฐจากผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวในสถานการณ์ปัจจุบัน”

วันที่ 30 กันยายน 2563 นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3/2563  ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อคาดการณ์ถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต


สำหรับการสำรวจพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 3/2563 อยู่ที่ 60 ซึ่งสูงกว่าที่ผู้ประกอบการได้คาดการณ์ไว้เมื่อไตรมาสที่ 2/2563 ซึ่งได้คาดการณ์ไว้ที่ 37 สะท้อนสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมาและดีกว่าที่คาดไว้มาก แต่ยังถือว่าตํ่ากว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2562 ในระดับมาก (ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 3/2562 อยู่ที่ 91)

ทั้งนี้เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และมาตรการจํากัดการเดินทางระหว่างประเทศทั้งของประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ที่ยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ทําให้ผลประกอบการของธุรกิจท่องเที่ยวยังคงหดตัวสูงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน 

การคาดการณ์สถานการณ์การท่องเที่ยว ไตรมาส 4/2563 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ อยู่ที่ 63 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความคาดหวังว่าสถานการณ์ การท่องเที่ยวในไตรมาสหน้า จะดีขึ้นกว่าไตรมาสนี้เล็กน้อย และยังคงคาดว่าผลประกอบการอยู่ในระดับที่ตํ่ากว่าปกติมาก

ในไตรมาสที่ 4/2563 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 หมื่นคน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ 99.52 และคาดว่ามีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4,500 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 99.11 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 คาดว่าเมื่อสิ้นปี 2563 ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีประมาณ 6.74 ล้านคน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 83.07 และคาดว่าเมื่อสิ้นปี 2563​ประเทศไทยจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 336,513 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 82.59 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลในไตรมาสที่ 4

จากการสำรวจข้อมูลและการลงพื้นที่สัญจรเพื่อรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในโครงการ เที่ยวทั่วไทย ร่วมใจช่วยชาติ สทท.จึงขอเสนอ สรุปประเด็นแนวทางที่ภาคเอกชนต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐเป็น 3 กลุ่มดังต่อไปนี้   1.การเรียกร้องเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยแบ่งเป็น

1.1. รัฐบาลควรส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ  

1.2. ควรจัดตั้งธนาคารเพื่อการท่องเที่ยวหรือกองทุนฟื้นฟูผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและบริการ

1.3. การกระตุ้นอุปสงค์การท่องเที่ยวในประเทศ และสนับสนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศแบบเป็นหมู่คณะ

2.การเรียกร้องเพื่อยกระดับโครงสร้างของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

2.1. ส่งเสริมการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ (Re – Business Model) ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และส่งเสริมการ Upskill – Reskill สำหรับแรงงาน ให้สอดรับกับสถานการณ์และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ

2.2. การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ให้เหมาะกับการรับนักท่องเที่ยวและการเดินทาง 2.3. การปรับกลุ่มเป้าหมายด้านตลาดท่องเที่ยวของประเทศ   2.4. การส่งเสริมบทบาทหน้าที่ของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

3.การเรียกร้องด้านกฎระเบียบข้อบังคับ

3.1. การทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย และยกเว้นค่าธรรมเนียม/ภาษี บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว

3.2. มาตรการเพื่อการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการต้องมีความต่อเนื่อง

3.3. มาตรการช่วยเหลือแรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการปิดประเทศ โดยเฉพาะอาชีพที่ได้รับผลกระทบโดยตรงได้แก่ มัคคุเทศก์และคนขับรถนำเที่ยว หากรัฐบาลให้การสนับสนุนและช่วยเหลือตามมาตรการข้างต้นจะทำให้อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในอนาคต


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

โทร 02 250 5500 ต่อ 1645-1648 อีเมลล์ info@thailandtourismcouncil.org

www.kaomaadoo.com​ CHATCHAI​ 083-076-0579

www.kaomaadoo.net​

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.